
สรุปข่าวไข่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงที่เนเธอร์แลนด์
ไข่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงชื่อ “ฟิโปรนิล (fipronil)” เป็นข่าวใหญ่ที่เนเธอร์แลนด์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาค่ะ Dutchthingy ติดตามข่าวมาโดยตลอด และได้นำเสนอเล่าข่าวในเวอร์ชั่นภาษาไทยไว้ในเฟสบุ๊ก Dutchthingy ค่ะ — และตอนนี้ สถานการณ์ที่เนเธอร์แลนด์เริ่มคลี่คลายแล้วค่ะ แต่ที่ต่างประเทศเพิ่งกลายเป็นประเด็นตื่นตระหนกกัน ดังนั้นจึงคิดว่า ควรจะทำเป็นสรุปข่าว เพื่อที่ผู้อ่านชาวไทยจะได้ทราบสถานการณ์จริงตั้งแต่เริ่มค่ะ และหวังว่าสถานการณ์และการจัดการกับปัญหาของทางการเนเธอร์แลนด์จะเป็นบทเรียนให้เมืองไทยได้ศึกษาต่อการจัดการปัญหาเรื่องความปลอดภัยทางด้านอาหารด้วยค่ะ เริ่มต้นด้วยบริษัทรับกำจัดไรไก่ ชื่อ “Chickfriend” ค่ะ บริษัทนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Barneveld จังหวัด Gelderland เจ้าของบริษัทชื่อนาย Eigenaren Martin van de B. (อายุ 31 ปี) และนาย Mathijs IJ. (อายุ 24 ปี) บริษัทได้เปิดตัวเทคนิคที่รับประกันว่ากำจัดไรไก่ได้ดีและยาวนานกว่าคู่แข่ง ในงานแสดงสินค้าทางการเกษตรเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาค่ะ โดยเทคนิคนี้รับประกันว่า ฟาร์มจะปลอดไรไก่ได้ยาวนานถึง 6 เดือน ในขณะที่บริษัทคู่แข่งอื่นๆ รับประกันได้แค่ 3 เดือนค่ะ เมื่อโฆษณาว่าดีเช่นนี้ จึงทำให้มีลูกค้า เจ้าของฟาร์มไก่ไข่มาใช้บริการมากมายค่ะ –ยาที่บริษัท Chickfriend ใช้ในการกำจัดไรไก่ มีชื่อทางการค้าว่า ‘Dega-16’ และเมื่อมีคนสอบถามว่า ในตัวยานี้ประกอบด้วยสารเคมีอะไร ทั้งคู่ก็จะไม่บอกค่ะ เป็นความลับของบริษัท บอกเพียงแค่ว่า ยาตัวนี้ถูกต้องตามกฎหมาย กิจการของบริษัท Chickfriend ประสบความสำเร็จมาก มีลูกค้าทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมถึงเบลเยี่ยมด้วยค่ะ — มีข่าวลือมาบ้างเหมือนกันว่า บริษัทนี้ใช้ยาต้องห้ามที่ทางการดัตช์ห้ามไม่ให้ใช้กับปศุสัตว์ — แต่ไม่มีหลักฐาน รวมถึงลูกค้าก็คิดว่า…

นโยบายและงบประมาณประจำปี 2025 กับผลกระทบต่อเรา
ทุกวันอังคารสัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายน จะเป็นวัน Prinsjesdag ค่ะ — เป็นวันแถลงนโยบายและงบประมาณประจำปีของรัฐบาล หลังจากที่เนเธอร์แลนด์อยู่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี Mark Rutte มายาวนานนับสิบปี ปีนี้เป็นปีแรกที่งบประมาณประจำปีนำโดยนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Dick Schoof รัฐบาลใหม่ได้ประกาศตั้งแต่ตอนก่อตั้งแล้วว่า จะมีมาตรการควบคุมผู้ลี้ภัยและการอพยพที่เข้มงวดที่สุดเท่าที่เคยมีมา และจะอยู่ข้างเกษตรกรมากกว่าสิ่งแวดล้อมค่ะ จะผ่อนคลายความเข้มเรื่องการปล่อยออกไซต์ของไนโตรเจนที่ยุโรปบังคับ และเนเธอร์แลนด์เคยทะเยอทะยานที่จะทำให้ได้ดีกว่าที่ยุโรปต้องการในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรฟาร์มโคนม ฟาร์มปศุสัตว์บางรายอาจถึงต้องปิดกิจการ — แต่รัฐบาลใหม่จะไม่ทะเยอทะยานเช่นนั้น แต่จะเน้นเรื่องความมั่นคงทางอาหารมากกว่า แต่อุปสรรคที่สำคัญคือ งบประมาณมีจำกัดค่ะ จึงไม่สามารถอุดหนุนทุกอย่างได้ ดังนั้นดูเหมือนนโยบายรัฐบาลใหม่นี้จะตัดงบด้านการศึกษา และการช่วยเหลือพัฒนาประเทศโลกที่สาม รวมถึงยังยืนยันที่จะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในหมวดสินค้าทางด้านวัฒนธรรม หนังสือ และกีฬา ในปี 2026 ค่ะ เพราะรัฐต้องการรายได้เพิ่มในส่วนนี้ งบประมาณ รายได้-รายจ่ายของรัฐ ปีนี้รัฐตั้งงบประมาณแบบขาดดุลเล็กน้อยค่ะ อยู่ที่ 457 พันล้านยูโร จากในภาพเราจะเห็นว่าแหล่งรายได้ 3 อันดับแรกของรัฐมาจากภาษีรายได้ รองลงมาก็คือภาษีมูลค่าเพิ่ม (จากการจับจ่ายใช้สอยของเรานั่นเองค่ะ) อันดับที่สามของแหล่งรายได้ของรัฐ มาจากเบี้ยประกันสุขภาพค่ะ เราจ่ายให้บริษัทประกันสุขภาพทุกเดือน และบริษัทฯ จะนำส่งส่วนหนึ่งให้แก่รัฐ รายจ่ายของรัฐส่วนใหญ่ในปี 2025 คือรายจ่ายด้านประกันสังคม เช่น เงินสงเคราะห์ต่างๆ ค่ะ เงินบำนาญผู้สูงอายุ เงินสงเคราะห์บุตร ฯลฯ และรายจ่ายด้านสุขภาพสาธารณสุข รายจ่ายรองลงมาอันดับสามของรัฐคือ รายจ่ายให้กองทุนการปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลและจังหวัด รายจ่ายอันดับสี่ถัดมาคือ รายจ่ายให้แก่การศึกษา วัฒนธรรม และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ค่ะ ส่วนรายจ่ายด้านกลาโหมตามมาเป็นลำดับห้าค่ะ รายจ่ายของรัฐนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของรัฐบาลค่ะ ว่าเน้นความสำคัญต่อภาคส่วนใดเป็นพิเศษ นโยบายรัฐปี 2025 และผลกระทบ…

ระบบประกันสุขภาพของเนเธอร์แลนด์
เป็นพระราชบัญญัติประกันสุขภาพ หรือที่เรียกว่า de Zorgverzekeringswet (Zvw) ค่ะ ที่ระบุว่าทุกคนที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในเนเธอร์แลนด์ “ต้อง” ทำประกันสุขภาพ ดังนั้นทุกคนจึงมีสิทธิในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานทางสุขภาพ ที่เรียกว่า basispakket หลักการทั่วไปของพระราชบัญญัติประกันสุขภาพ ระบบการรักษาพยาบาลของเนเธอร์แลนด์ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันค่ะ ดังนั้นไม่ว่าจะรวยจะจน เด็กหรือผู้ใหญ่ คนสุขภาพดีหรือป่วย ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันในการได้รับการรักษาในแบบเดียวกันในราคาที่ย่อมเยาจากแพ็คเกจประกันสุขภาพขั้นพื้นฐาน โดยทุกคนต้องทำประกันสุขภาพผ่านบริษัทประกัน และจ่ายเบี้ยประกันและภาษี เนเธอร์แลนด์ไม่มีรักษาฟรีค่ะ แต่ที่ดูเหมือนฟรี ก็เพราะทุกคนถูกบังคับให้ต้องทำประกันสุขภาพและจ่ายเบี้ยประกันทุกเดือน เนื้อหาโดยทั่วไปของพระราชบัญญัติประกันสุขภาพนี้คือ โครงสร้างพื้นฐานทางสุขภาพ (basispakket) ประกอบด้วยอะไรบ้าง แปลง่ายๆ คือสิทธิในการเข้าถึงการรักษาเบื้องต้นเวลาป่วยน่ะค่ะ ซึ่งคนที่ทำประกันทุกคน (ซึ่งก็คือคนในเนเธอร์แลนด์ทุกคน) จะได้รับคือ หากดูในรายการ basispakket ที่เราจะได้รับ ก็ดูครอบคลุมในปัญหาทางสุขภาพแทบทุกอย่างแล้วค่ะ แต่บางคนอาจต้องการจะทำประกันให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น เรียกว่า Aanvullende verzerkering เช่น ประกันสุขภาพสำหรับสุขภาพสายตา (ตัดแว่นสายตา เป็นต้น) หรือประกันสุขภาพดูแลช่องปาก ตรงนี้เราก็สามารถทำประกันเพิ่มได้ตามสมัครใจค่ะ คราวนี้มาดูเรื่องค่าใช้จ่ายบ้างค่ะ เพราะการทำประกันสุขภาพ และจ่ายเบี้ยประกันทุกเดือน ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะรักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายอีกแล้วนะคะ ยังมีส่วนที่เราต้องร่วมจ่ายอยู่ค่ะ เพื่อให้เข้าใจถึงค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากเบี้ยประกันรายเดือน เราต้องรู้จัก 2 คำนี้ค่ะ คือ eigen risico และ eigen bijdragen ปี 2023 วิตามินดี ไม่อยู่ในรายการ basispakket อีกต่อไป Eigen risico คือค่ารักษาส่วนที่เราต้องจ่ายค่ะ เหมือนเราจ่ายสมทบค่ารักษาตัวเราเองน่ะค่ะ …ถึงแม้เราจะทำประกันสุขภาพและจ่ายเบี้ยรายเดือนทุกเดือนแล้วก็ตาม …แต่ถ้าเราป่วย และไปหาหมอ…

การจัดการขยะในครัวเรือน
ประเทศเนเธอร์แลนด์จัดว่าเป็นประเทศที่มีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่งเชียวค่ะ บทความนี้จึงอยากนำเสนอว่า ตามบ้านเรือนทั่วไปในประเทศนี้ เขาก็มีส่วนรวมในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมค่ะ ในแต่ละบ้านของเนเธอร์แลนด์ จะมีขยะให้ 2 ถังค่ะ คือถังสีดำ กับถังสีเขียว ถังเขียว เเละถังดำ (คนดัตช์บางคนเรียกถังขยะสีเทา) ขยะตามครัวเรือน จะแบ่งใหญ่ๆ ได้เป็น ขยะเปียก ขยะเเห้ง กระดาษ พลาสติก แก้ว และเสื้อผ้า ค่ะ ขยะเปียกคือ ขยะพวกเศษอาหารจากในครัว หรือใบไม้ใบหญ้าจากสวนหลังบ้าน ขยะพวกนี้จะเน่า และย่อยสลายได้ค่ะ ขยะพวกนี้จะทิ้งในถังขยะสีเขียว ขยะแห้ง คือขยะทั่วไป ที่ไม่ใช่พลาสติก กระดาษ แก้ว หรือเสื้อผ้าค่ะ อย่างเช่น ถ้าเป็นบ้านออยก็ ถุงใส่ขี้แมว กล่องพลาสติกที่ใส่เนื้อสัตว์มาจากซุปเปอร์ หรือถุงขนมขบเคี้ยว พวกเลย์ทั้งหลาย ขยะพวกนี้ทิ้งที่ถังขยะสีดำค่ะ ขยะทั้งสองถังนี้จะมีรถมาเก็บทุกอาทิตย์ค่ะ ให้ลากมาไว้ที่หน้าบ้าน หรือจุดที่รถขยะยกได้สะดวก ที่ย่านที่ออยอยู่ รถขยะจะมาเก็บทุกวันอังคารค่ะ โดยจะสลับกัน เช่น อาทิตย์นี้เก็บขยะสีเขียว อาทิตย์หน้าเก็บถังขยะสีดำเป็นต้น เราต้องลากมาให้ถูกสีด้วยนะคะ และอย่าวางผิดวัน หรือวางถังขยะทิ้งไว้นานๆ นะคะ เพราะอาจโดนปรับได้ (ที่ถังขยะมีบ้านเลขที่ของเราอยู่ค่ะ) ถ้าจำไม่ได้ว่าอาทิตย์นี้ ต้องทิ้งขยะอะไร หรือกลัวลืม ที่นี่เขาก็มี application ในสมาร์ทโฟน ให้ใช้นะคะ ที่บ้านออยใช้ ชื่อ App “DeAfvalApp” ค่ะ เพียงแต่ป้อนที่อยู่ของเราลงไป และเราสามารถตั้งค่าให้ App นี้เตือนเราล่วงหน้าเมื่อถึงวันที่จะต้องลากขยะไปวางไว้หน้าบ้านได้ค่ะ สำหรับคนที่อยู่อพาร์เมนต์ หรือคอนโด…