เที่ยวไปทางเหนือ : Alkmaar

สวัสดีค่ะ หายไปนานเลย มัวแต่วุ่นวายกับการสอบสารนิพนธ์ และ TOEIC อยู่ค่ะ ตอนนี้ ขณะที่เขียน blog อยู่นี้ ก็ยังอยู่ที่เมืองไทย ยังไม่ได้กลับไปฮอลแลนด์แต่อย่างใด (แปลนว่าถ้าแก้สารนิพนธ์เสร็จ ก็จะบินแล้วล่ะ) ตอนนี้เลยขอนำความประทับใจที่ได้ไปเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อปีที่แล้ว มาให้ดูกันก่อนพลางๆ ค่ะ เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปเที่ยวเมือง Alkmaar ซึ่งเป็นเมืองทางเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ เมืองนี้อ่านออกเสียงประมาณว่า “อัล-คา-มาร์” เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัด Noord Holland ค่ะ เมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่อง “ชีสสสส…” ค่ะ แต่น่าเสียดาย วันที่เราไปกันนั้น เราไปถึงที่นั่น หลังสี่โมงเย็นแล้วค่ะ ตลาดชีสและพิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว ที่มา www.wikipedia.com ลักษณะของเมือง มีคลองเล็กๆ ล้อมรอบ (สังเกตในส่วนที่ไปเที่ยวนะคะ) ในภาพด้านล่างเป็นแผนที่ของเมือง ถ่ายจากหน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ ถนนในเมืองจะแคบๆ บ้านอยู่กันหลังเล็กๆ แคบๆ เหมือนทาวน์เฮ้าบ้านเรา เนื่องจากสถานที่แคบ ดังนั้นจึงสังเกตว่า เมืองนี้ มีแมวเยอะมากค่ะ เยอะกว่าหมา คงเนื่องจากว่า แมวไม่ได้ต้องการสถานที่วิ่งเล่นมากเหมือนหมา เเมววิ่งเล่นบนหลังคาบ้านไปมาก็ได้ ในฐานะคนรักแมว ชอบเมืองนี้มากค่ะ เท่าที่สังเกต แมวดัตช์นี้ ตัวใหญ่กว่าแมวไทยบ้านเรามากกกก… ในรูป แมวมักจะชอบอาบแดดบนรถที่จอดอยู่หน้าบ้านน่ะค่ะ เจอแล้ว ก็ขอเล่นด้วยสักหน่อย เมื่อเราเดินมาตามถนนหลัก (ขนาดประมาณซอยบ้านเรา) ที่ชื่อ  Langestraat มาเรื่อยๆ ประมาณกลางๆ จะเจอ Town Hall ค่ะ…

"เที่ยวไปทางเหนือ : Alkmaar"

เที่ยวไปในฮอลแลนด์ : De Dom, Utrecht

ขอโทษที่หายไปนานเลยค่ะ ช่วงปีใหม่ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกะใครหรอกค่ะ นั่งหน้าเงียกอยู่กับการทำรายงานสารนิพนธ์ ในที่สุดก็เสร็จ ส่งอาจารย์เรียบร้อย!  ตอนนี้รายงานของออยก็กลายเป็นปัญหาของอาจารย์เรียบร้อยแล้วล่ะ 555 blog นี้ ขอเล่าเรื่องเมือง Utrecht ที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวมาค่ะ  Utrecht  เป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ประมาณตอนกลางๆ ของประเทศเนเธอแลนด์ค่ะ  ดังนั้นบ่อยครั้งในการเดินทางด้วยรถไฟ ออยซึ่งอยู่ Eindhoven จะต้องมาแวะต่อรถไฟที่สถานีรถไฟของเมืองนี้ ในภาพ (ยืมมาจาก wikiwedia) คือแผนที่แสดงให้เห็นจังหวัด Utrecht ค่ะ    ที่มา www.wikipedia.org มาแวะต่อรถไฟที่เมืองนี้ ก็หลายครั้ง แต่ยังไม่เคยได้เดินไปนอกสถานีรถไฟเลยค่ะ วันนี้ (25 กันยายน 2012) สบโอกาส เลยแวะชมเมืองนี้สักหน่อย Utrecht เป็นเมืองใหญ่ (ตามมาตรฐานฮอลแลนด์) สังเกตได้ว่า มีร้านสตาร์บัคตั้ง 2 ร้านแนะ (Eindhoven ไม่มีสตาร์บัคค่ะ) และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้ คือ De Dom ที่กำลังจะพาไปชมนี่แหละค่ะ De Dom คือโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุด และสูงที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ ก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เมื่อก่อน โบสถ์นี้มีหลายอาคารค่ะ แต่ในปี 1674 De Dom ได้รับความเสียหายจากพายุ ทำให้อาคารบางส่วนพังลง และไม่ได้ซ่อมแซม เปลี่ยนส่วนที่พังนั้น ให้เป็นถนนแทน ดังนั้น เนื้อที่ของโบสถ์จึงถูกแยกออกเป็นสองส่วน โดยมีถนนคั่นกลาง เดินออกจากสถานีรถไฟ…

"เที่ยวไปในฮอลแลนด์ : De Dom, Utrecht"

เทศกาลดอกไม้ Floriade2012 (2)

มาถึงตอนที่ 2 กันค่ะ สำหรับเทศกาลดอกไม้ Florade ของประเทศเนเธอร์แลนด์ อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า คนประเทศนี้เขารักดอกไม้กันมาก ดังนั้นงานในครั้งนี้จึงได้รับความสนใจจากคนดัตช์มากเลยทีเดียว เนื้อที่การจัดงานก็กว้างใหญ่มาก ประมาณ 65 เฮกเตอร์ ส่วนแนวคิดหรือธีมในงานครั้งนี้ ก็คือ “Be part of the theatre of nature, get closer to the quality of life” แปลเป็นไทยกากๆ ได้ประมาณว่า “ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโรงละครแห่งธรรมชาติ ได้ใกล้ชิดกับคุณภาพแห่งชีวิต” ความเดินตอนที่เเล้ว หลังจากที่เดินกันเมื่อย เราก็นั่งเคเบิ้ลคาร์กัน แล้วเราก้มาตระหนักเอาอีกตอนทางลง ว่าเคเบิ้ลคาร์อันนี้ ทุกคนต้องลง และหากจะกลับก็ต้องซื้อตั๋วใหม่ อ้าว… มันไม่ได้ใกล้ๆ นา เหตุผลที่เราอยากกลับไปที่เดิม ก็เพราะเราอยากเดินไปดูอาคาร Green Engine ซึ่งภายในอาคารนี้ จะมีดอกกล้วยไม้สวยๆ มาแสดง และมีสวนของประเทศไทยอยู่ด้วย… เซ็งเลย ดอกกุหลาบสีสวย ถ่ายตรงจุดลงจากเคเบิ้ลคาร์ค่ะ สวนแบบดัตช์ค่ะ แฟนเรียกว่า “Chaos Garden” เขาตั้งใจให้เป็นแบบนี้นะคะ มันมาจากการเอาเมล็ดพันธ์ดอกไม้หลายๆ ชนิดมาผสมกัน แล้วหว่านลงบนพี้นดิน ซึ่งแตกต่างจากสวนแบบไทยที่เราคุ้นเคย ที่ดูจะเป็นระเบียบกว่า แปลงดอกอะไร ก็มีแต่ดอกชนิดนั้น แต่แบบนี้ ฝรั่งเขามองว่าสวยค่ะ ดูเป็นธรรมชาติดี กระถางดอกไม้ที่จัดแสดงในอาคาร Green Engine ค่ะ สวยมาก ดอกกล้วยไม้ที่จัดภายในอาคาร…

"เทศกาลดอกไม้ Floriade2012 (2)"

เทศกาลดอกไม้ Floriade2012 (1)

ไปเที่ยวฮอลแลนด์คราวนี้ โชคดีได้มีโอกาสไปงานเทศกาลดอกไม้ ที่เรียกว่า Flriade ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง Venlo จังหวัด Limburg  งานนี้เขาจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 เมษายน – 7 ตุลาคม 2012 อารมณ์งานคงจะเหมือนงานพืชสวนโลกที่จัดที่บ้านเรากระมัง (บังเอิญว่าไม่เคยไปงานพืชสวนโลกเลย เคยดูแต่ภาพที่เพื่อนไปมา แล้วถ่ายมาให้ดู) และที่ว่าโชคดีก็คือ งานเทศกาลดอกไม้นี้ เป็นงานใหญ่ระดับประเทศของเขาเลย แถม 10 ปีมีครั้ง เรียกได้ว่าถ้าพลาดครั้งนี้ คงต้องรอไปอีก 10 ปีข้างหน้า (ซึ่งตอนนั้น คงแก่แล้ว อาจจะไม่สนใจดอกมงดอกไม้อะไรแล้วก็ได้) การเดินทางไปงาน Flriade นี้ก็นับว่าสะดวกสบาย เนื่องจากพอลงรถไฟที่สถานี Venlo ก็ไปซื้อตั๋วรถบัสที่ร้านหนังสือ ภายในสถานีรถไฟ จากนั้นออกไปรอรถบัสข้างหลังสถานี รถบัสจะออกทุกๆ 15 นาที รถบัสก็จะพาเราตรงไปยังสถานที่จัดงานเลย งานนี้มีบัตรเข้าชม ราคาประมาณ 25 ยูโร ซื้อตั๋วเสร็จก็เดินเข้าไปในงานด้วยกันเลยค่ะ แค่ทางเดินเข้างาน สองข้างทางก็มีสวนดอกไม้สวยๆ แล้ว ทางเข้างานค่ะ จะต้องผ่านตึกนี้ก่อน ดูเหมือนจะสูงที่สุดในงาน  บริเวณจัดงานกว้างขวางมากค่ะ และที่เห็นตอนบนของภาพ คือ เคเบิ้ลคาร์ ค่ะ เนื่องจากนี่คือเทศกาลนานาชาติ ดังนั้นจึงมีสวนจากหลายประเทศมาแสดง ในรูปคือ green house ของเจ้าภาพ ประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ ถ่ายแต่รูปด้านนอก ไม่ได้เข้าไปข้างใน สวนของประเทศอินโดนีเซีย มีการแสดงด้วยค่ะ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ฝรั่งที่นี่ เขาตื่นตาตื่นใจกับปลาคาร์ฟที่สวนของประเทศญี่ปุ่นมากค่ะ (แฟนบอกว่า ปลาคาร์ฟมีราคาแพงมาก)…

"เทศกาลดอกไม้ Floriade2012 (1)"